ขั้นกว่าของศาสตร์แห่งการชะลอวัย: ปัจจุบันฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังสามารถช่วยในการบาบัดรักษาได้

การแก้ไขความไม่สมมาตรของใบหน้าด้วยกรดไฮยาลูโรนิก ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ การผ่าตัด หรือภาวะบาดเจ็บ เป็นศาสตร์ที่ต้องมีการศึกษาและเจาะลึก เนื่องจากหัตถการความงามส่งผลกระทบเชิงบวกต่อระดับของสุขภาวะทางจิตใจ

Beyond anti-ageing: dermal fillers now tackle therapeutic indications

แต่เดิมการรักษาด้วยฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังมีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ไขปัญหาความชรา เช่น ริ้วรอยแห่งวัยและการสูญเสียปริมาตรบนใบหน้าที่ทาให้เกิดร่องลึก รวมไปถึงการปรับรูปทรงของใบหน้าและลาคอ ปัจจุบันมีการพัฒนาสูตรผสมและให้บริการในท้องตลาดเพื่อขยายขอบเขตการใช้งานและการดูแลรักษา1 นอกเหนือจากขอบเขตของการชะลอวัยและการเสริมความงาม ปัจจุบันฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังยังถูกนามาใช้เพื่อการบาบัดรักษาด้วยเป้าหมายการเติมเต็มร่องลึกผ่านวิธีการทาหัตถการที่ทาให้เกิดแผลขนาดเล็ก2,3 ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์ของใบหน้าที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องทาให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ สาหรับสูตรผสมของฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึกที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกรูปแบบใหม่4,5 ฟิลเลอร์เหล่านี้ถูกผลิตขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อปรับคุณสมบัติให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้อย่างเหมาะสม ผ่านคุณสมบัติทางวิสโคอีลาสติกที่ช่วยรักษาลักษณะเฉพาะของใบหน้าให้คงอยู่ได้

ทีอ๊อกแซน (Teoxane) เป็นผู้นาในการพัฒนาสูตรผสมเฉพาะที่ล้าสมัยดังกล่าว ด้วยเหตุนี้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพัฒนาเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ6,7 ทีอ๊อกแซน (Teoxane) ได้ลงมือพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตอบสนองความต้องการทางคลินิกและขยายขอบเขตการใช้งานให้ยิ่งกว่าการชะลอวัยตามจุดมุ่งหมายเดิม จนปัจจุบันฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังเป็นทางเลือกที่เหมาะสมซึ่งสามารถทดแทนการผ่าตัดสาหรับการรักษาเฉพาะทางได้ เช่น ภาวะแก้มตอบจากไขมันฝ่อ การรักษารอยแผลเป็น การดูแลรักษาเพื่อเสริมสร้างหลังภาวะบาดเจ็บ ความไม่สมมาตรของใบหน้า รวมถึงความผิดรูปของใบหน้าโดยกาเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลัง2,8,9

นอกเหนือจากการเสริมความงาม ฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึกยังสามารถช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองและบาบัดรักษา ความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ เช่น ความไม่สมมาตรของใบหน้า สาหรับกรณีศึกษาที่นาเสนอในบทความนี้ ได้มีการแนะนาการดูแลรักษาทั้งใบหน้าเพื่อสร้างความสมมาตรของปริมาตรใบหน้าทั้งสองฝั่ง

ในผู้ป่วยสองรายที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ในกิจกรรมการสาธิตสดในงานประชุม AMWC Congress ผู้ป่วยที่มีความไม่สมมาตรของใบหน้าโดยกาเนิดได้รับการประเมินด้วยการวิเคราะห์โครงสร้างทางกายวิภาคอย่างละเอียด เพื่อเติมปริมาตรแก่ใบหน้าอย่างเหมาะสมโดยไม่กระทบต่อลักษณะเฉพาะตัวของใบหน้า จากนั้นจึงได้รับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อการรักษาเฉพาะบุคคลบริเวณใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนกลาง และใบหน้าส่วนล่าง

สาหรับการดูแลรักษาในแต่ละจุด ซึ่งมีการอธิบายไว้ในเนื้อหาผลงานตีพิมพ์ ได้มีการดาเนินการตาม “แนวทาง ATP” อย่างละเอียดเพื่อประเมินผู้ป่วย กาหนดโซนอันตราย และปรับการรักษาโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด10 ฟิลเลอร์ชนิดที่มีคุณสมบัติการยกกระชับสูงได้รับการฉีดเข้าที่บริเวณส่วนกลางของใบหน้า โดยฉีดที่ตาแหน่งก้อนไขมันที่อยู่นิ่ง และเดินยาอย่างช้า ๆ ในปริมาณเล็กน้อยเข้าไปทางด้านขวาเพื่อลดความไม่สมมาตรของใบหน้าทั้งสองฝั่ง

ผลิตภัณฑ์เดียวกันนี้ยังถูกนามาฉีดที่บริเวณขมับ โดยมีเป้าหมายเพื่อฉีดฟิลเลอร์ที่แข็งตัวเข้าไปในระดับลึกเพื่อดันขมับขึ้นและยกคิ้วขึ้น สุดท้ายแล้วฟิลเลอร์จะถูกฉีดลึกเข้าไปในบริเวณข้างร่องแก้มเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเส้นเลือดแดงบนใบหน้าที่อยู่บริเวณผิว
ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นถูกฉีดในบริเวณร่องแก้มลึกเพื่อดันเนื้อเยื่อบริเวณใบหน้าฝั่งซ้ายลงเพื่อไม่ให้เกิดการยก ริมฝีปากบนขึ้นสูงเกินไป นอกจากนี้ยังใช้ฟิลเลอร์เฉพาะสาหรับริมฝีปากเพื่อแก้ไขริมฝีปากที่ยกสูงขึ้นทางด้านซ้ายด้วยเช่นกัน การปรับรูปทรงของใบหน้าส่วนล่างให้ชัดเจนขึ้นเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการดูแลรักษาทั้งใบหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์และเสริมความงามเพิ่มเติม

การแก้ไขความไม่สมมาตรของใบหน้าด้วยกรดไฮยาลูโรนิก ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ การผ่าตัด หรือภาวะบาดเจ็บ เป็นศาสตร์ที่ต้องมีการศึกษาและเจาะลึก เนื่องจากหัตถการความงามส่งผลกระทบเชิงบวกต่อระดับของสุขภาวะทางจิตใจ การรักษาภาวะเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสาคัญ ทั้งในด้านการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและสุขภาวะทางจิตใจ

คุณสามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://emjreviews.com/wp-content/uploads/sites/2/2022/06/Beyond-Aesthetics-Hyaluronic-Acid-Fillers-as-a-Therapeutic-Treatment.pdf