- บทสัมภาษณ์
คุณลักษณะที่เหมาะสมของสารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะ: เมื่อคุณสมบัติทางวิสโคอีลาสติกพบกับความต้องการทางคลินิก
ด้วยความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ ทีอ๊อกแซน (Teoxane) ได้กาหนดคุณลักษณะที่เหมาะสมของสารที่ทาให้ ฟิลเลอร์เกิดพันธะ

ฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังชนิดฉีดที่ให้ผลลัพธ์การคืนความอ่อนเยาว์ในระยะยาวและดูเป็นธรรมชาติกาลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ตั งแต่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินบูสเตอร์ไปจนถึงผลิตภัณฑ์เติมความอวบอิ่ม โดยผู้ผลิตในปัจจุบันต่างนาเสนอผลิตภัณฑ์เสริมความงามผ่านการทาหัตถการความงามด้วยการฉีดที่ทาให้เกิดแผลขนาดเล็ก1
ระยะแรกที่เริ่มมีการฉีดฟิลเลอร์ ปัญหาด้านความปลอดภัยถูกยกขึ นมาเป็นประเด็นจากความกังวลเกี่ยวกับสูตรผสมที่มีซิลิโคนแบบถาวรเป็นส่วนประกอบและผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น การตอบสนองต่อการอักเสบและการฉีดที่มากเกินไป ดังนั นจึงได้มี การดาเนินการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึกที่มีความเสี่ยงต่า2 ขึ น โดยเมื่อไม่นานมานี เจลที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกได้กลายเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเข้ากันได้กับร่างกาย ปลอดภัย มีความเป็นพิษต่า และสามารถมุ่งเป้าไปที่ปัญหาด้านความงามได้อย่างหลากหลายรูปแบบ3
คุณสมบัติพื นฐานของกรดไฮยาลูโรนิกมีความเหมาะสมสาหรับการใช้ในฟิลเลอร์ใต้ผิวหนัง เนื่องจากมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื นให้แก่ชั นผิว ทว่าแม้จะมีคุณสมบัติทางชีวภาพที่โดดเด่นเหล่านี แต่กรดไฮยาลูโรนิก (HA) ตามธรรมชาติยังเป็นที่รู้จักในเรื่อง การมีอายุอยู่ในผิวหนังที่สั นมาก ราว 2 – 4 วัน4,5 โดยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์จะทาหน้าที่สลาย กรดไฮยาลูโรนิกด้วยการตัดพันธะไกลโคซิดิก6 การตั งเป้าหมายในการสังเคราะห์เจลที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกที่ออกฤทธิ์นานและมีคุณสมบัติทางวิสโคอีลาสติกที่ดีขึ น การปรับปรุงด้วยวิธีทางเคมีและการทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะ7 จึงเป็นหนทางที่จะทาให้ได้มาซึ่งคุณลักษณะเหล่านี โดยมีเป้าหมายเพื่อสังเคราะห์ฟิลเลอร์ที่คงคุณสมบัติความเข้ากันได้ทางชีวภาพของ กรดไฮยาลูโรนิก ขณะเดียวกันยังปรับปรุงคุณสมบัติเชิงกลและคุณสมบัติทางเคมีให้ดียิ่งขึ น สารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะประกอบด้วยโมเลกุลขนาดเล็กที่สร้างพันธะเชื่อมระหว่างโครงสร้างสายโซ่ของกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งเป็นแนวทางการปรับปรุงคุณสมบัติทางคลินิกของกรดไฮยาลูโรนิกที่ใช้โดยทั่วไป
ด้วยความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ ทีอ๊อกแซน (Teoxane) จึงได้กาหนดคุณลักษณะที่เหมาะสมของสารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะขึ น
ด้วยบทบาทที่สาคัญในการเชื่อมต่อโครงสร้างสายโซ่ของกรดไฮยาลูโรนิกเข้าด้วยกัน สารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะจึงต้องมีคุณสมบัติที่เป็นไปตามข้อกาหนด ซึ่งประกอบด้วยการมีคุณสมบัติความยืดหยุ่นสูงขึ น คงทนยิ่งขึ น เสถียรมากขึ น และปลอดภัยเมื่อเวลาผ่านไป ในแง่ของสมบัติทางเคมี กรดไฮยาลูโรนิกมีความไวต่ออุณหภูมิหรือค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH)6 มาก ปฏิกิริยาการเกิดพันธะจึงต้องเกิดขึ นอย่างรวดเร็วภายในสภาพสารตัวกลางที่อ่อนนุ่มเพื่อจากัดการสลายตัวของกรดไฮยาลูโรนิกและ ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะอย่างมีประสิทธิภาพ
ความต้องการประการที่สองคือความสามารถในการละลายนา เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการใช้ฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังคือการฉีด กระบวนการผลิตและปฏิกิริยาการเกิดพันธะต้องได้รับการออกแบบเพื่อหลีกเลี่ยงการมีสารตัวทาละลายอินทรีย์ตกค้างในเจลที่ฉีดเข้าสู่ร่างกาย สาหรับความต้องการประการที่สาม การเชื่อมพันธะจะต้องคงเสถียรภาพในช่วงอุณหภูมิการเก็บรักษา ดังนั นสารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะจะต้องคงเสถียรภาพได้อย่างดีเยี่ยมเป็นระยะเวลาหลายปีตลอดอายุการใช้งานของเจล และประการสุดท้าย ปริมาณของสารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะที่ใช้ในกระบวนการผลิตจะมีบทบาทในการกาหนดคุณสมบัติทางวิสโคอีลาสติกของฟิลเลอร์ใต้ผิวหนัง
สาหรับความเป็นพิษ ฟิลเลอร์ที่สังเคราะห์อย่างสมบูรณ์จะต้องไม่มีการตกค้างของสารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะ ภายใต้สภาวะที่เกิดปฏิกิริยา สารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะที่ใช้ในการสังเคราะห์ฟิลเลอร์จะต้องถูกดัดแปลงให้กลายเป็นสารที่ปลอดภัยและไม่ทาปฏิกิริยา เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นสาเหตุที่ทาให้เกิดความเป็นพิษต่อเซลล์
ในแง่ของความปลอดภัย ปฏิกิริยาการเกิดพันธะจะต้องไม่ขัดขวางการสลายฟิลเลอร์ด้วยเอนไซม์อย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น การจัดการภาวะหลอดเลือดตีบตัน โดยการใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส8 ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จาเพาะต่อ การสลายกรดไฮยาลูโรนิกในปริมาณที่เหมาะสม
ปัจจุบันมีสารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะจานวนน้อยมากที่มีคุณสมบัติตรงตามคุณลักษณะสาหรับการออกแบบฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังเหล่านี โดยมีสาร 1,4-butanediol diglycidylether หรือที่เรียกว่าสาร BDDE เป็นสารที่ทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะชนิดแรกที่ใช้ในฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกที่วางขายในท้องตลาด ซึ่งถือว่าเป็นสารมาตรฐานสาหรับการทาให้ฟิลเลอร์เกิดพันธะที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลก เนื่องจากได้รับการพิสูจน์และมีการใช้ในทางคลินิกมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี
คุณสมบัติใหม่ทางวิสโคอีลาสติก สภาวะการเกิดพันธะที่อ่อนโยนขึ นเพื่อคงสภาพโครงสร้างสายโซ่ของกรดไฮยาลูโรนิก และคุณลักษณะใหม่ทางชีวกลศาสตร์ ล้วนเป็นการสร้างโอกาสใหม่สาหรับการออกแบบฟิลเลอร์ใต้ผิวหนังในอนาคต อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมนี จาเป็นต้องมีการศึกษาด้านความคงตัว ความเข้ากันได้ทางชีวภาพ ตลอดจนการศึกษาทางคลินิกที่ครอบคลุมซึ่งใช้เวลานานหลายปี เพื่อให้ได้มาตรฐานสูงสุดซึ่งได้พิสูจน์แล้วด้วยสาร BDDE
คุณสามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/34882503